BAAN-DECOR

แต่งผนังบ้านให้สวยแบบง่ายๆ

แต่งผนังบ้านให้สวยแบบง่ายๆ

ผนังบ้านถือว่ามีส่วนสำคัญไม่ใช่น้อย เพราะนอกจากจะไว้สำหรับกั้นอาณาเขตให้แต่ละห้องภายในบ้าน เพื่อให้ดูเป็นสัดส่วนแล้ว ยังมีส่วนในการช่วยป้องกันแสงแดด สายลม สายฝน และยังช่วยป้องกันความร้อนให้กับตัวบ้านได้อีกด้วย นอกจากนี้ผนังยังมีส่วนช่วยให้บ้านของเราดูสวยและมีบรรยากาศน่าอยู่ด้วยนะคะ เรียกได้ว่ามีประโยชน์สารพัดกันเลยทีเดียว สำหรับไอเดียแต่งผนังบ้านเราสามารถทำได้หลากหลายรูป อย่างเช่นตัวอย่างต่อไปนี้  ทาสีผนังบ้าน เป็นวิธีง่ายๆ และก็เป็นอะไรที่นิยมทำกัน อาจเป็นเพราะว่ายุคแรกที่เริ่มสร้างบ้านปูน ในช่วงนั้นจะมีเพียงการแต่งแต้มสีสันให้กับผนังเพียงเท่านั้น แต่ปัจจุบันมีตัวเลือกมากยิ่งขึ้น แต่การทาสีผนังก็ยังเป็นที่นิยมกันแบบไม่เสื่อมซ่า ซึ่งถ้าเทียบกับในอดีตต้องบอกว่าเดี๋ยวนี้มีสีให้เลือกทาได้อย่างหลากหลาย เรียกได้ว่ามีทุกสีสันที่เราต้องการกันเลยทีเดียว  ติดวอเปเปอร์  อีกหนึ่งวิธีที่ช่วยให้ผนังบ้านสวยในเวลาอันรวดเร็ว ที่สำคัญการติดเวเปเปอร์คุณยังสามารถเลือกเป็นรูปภาพได้อย่างหลากหลาย ปัจจุบันวิธีแต่งผนังด้วยการติดวอเปเปอร์จึงค่อนข้างได้รับความนิยมพอสมควรเลยทีเดียว เพราะนอกจากจะได้ผนังสวยๆ แล้ว ยังไม่มีกลิ่นไม่พึ่งประสงค์มารบกวนอีกด้วย ที่สำคัญอย่างเปลี่ยนเมื่อไหร่ก็ง่ายทันใจ  ติดรูปภาพสวยๆ  หากผนังบ้านคุณไม่ได้ทาสีหรือติดวอเปเปอร์ออกแนวการสร้างแบบสไตล์ลอฟท์ หรือบางท่านอาจเรียกว่าปูนเปลือย ผนังบ้านก็จะเป็นสีปูนแบบดิบๆ ซึ่งก็เรียกได้ว่าสวยไปอีกรูปแบบหนึ่ง แต่ถ้าคุณอยากเติมสีสันให้กับผนัง การติดรูปภาพสวยๆ หรือภาพที่เราชอบก็สามารถช่วยเพิ่มมุมมองเก๋ๆ ให้กับบ้านสไตล์นี้ได้เป็นอย่างดีค่ะ  ติดชั้นวางของไว้ที่ผนัง นอกจากจะช่วยประหยัดพื้นที่ได้แล้ว ชั้นวางของยังช่วยให้ผนังบ้านของคุณดูมีชีวิตชีวาขึ้นได้อีกด้วยค่ะ โดยอาจวางเป็นต้นไม้เล็กๆ หรือดอกไม้สวยๆ ประดับไว้ ก็ช่วยให้บรรยากาศภายในบ้านสดชื่นขึ้นได้ แต่ถ้าชั้นวางของอยู่ในมุมที่แสงแดดส่องไม่ถึงก็อย่าลืมเลือกต้นไม้ที่ไม่ชอบแดดและค่อนข้างทนทานกันด้วยนะคะ คุณจะได้ดูแลง่ายและต้นไม้ไม่เหี่ยวเฉาอีกด้วย อย่างเช่นประเภท ต้นตะบองเพชร หรือเฟิร์น บางชนิด นอกจากนี้หากเป็นในห้องทำงาน ห้องหนังสือ และห้องนั่งเล่น ชั้นติดผนังยังเป็นชั้นหนังสือที่เรียกได้ว่าสวยงามแบบลงตัวกันอีกด้วยค่ะ ไอเดียการแต่งผนังบ้านให้สวยแบบง่ายๆ […]

โต๊ะกลางชุดรับแขกเฟอร์นิเจอร์แต่งบ้านที่ไม่ควรมองข้าม

โต๊ะกลางชุดรับแขกเฟอร์นิเจอร์แต่งบ้านที่ไม่ควรมองข้าม

โต๊ะกลางจะเป็นโต๊ะที่ส่วนใหญ่แล้วเราจะตั้งไว้ระหว่างเฟอร์นิเจอร์ชุดรับแขก เพื่อไว้ว่างของต่างๆ เช่น หนังสืออ่านเล่น แจกันดอกไม้ และถ้าเวลาแขกมาก็อาจไว้สำหรับวางแก้วน้ำหรือของทานเล่นไปพร้อมๆ กัน ถือได้ว่าเป็นเฟอร์นิเจอร์ชิ้นหนึ่งที่เป็นหน้าเป็นตาให้กับเจ้าของบ้านเช่นเดียวกัน ดังนั้นควรเลือกให้สวยลงตัว สำหรับวิธีการเลือกคุณสามารถพิจารณาได้ดังนี้  ภาพจาก hightechbed.com 1. ขนาด เลือกให้มีความพอดีกับชุดรับแขกไม่ใหญ่หรือเล็กจนเกินไป รวมไปถึงดูขนาดพื้นที่ห้องประกอบกันด้วย เพราะถ้าเราเลือกโต๊ะกลางที่มีขนาดใหญ่และห้องมีขนาดไม่กว้างมาก อาจทำให้กินเนื้อที่และดูห้องไม่สวย หรือก็คือสัดส่วนไม่ลงตัวเท่าที่ควร  2. รูปแบบ ปัจจุบันมีดีไซน์ออกมาหลายรูปแบบให้สามารถเลือกใช้ได้ตามความต้องการ สำหรับเรื่องนี้ให้พิจารณาด้วยว่าในบ้านมีเด็กเล็กๆ หรือสัตว์เลี้ยงหรือเปล่า ถ้ามีควรเลือกรูปแบบโต๊ะให้มีรูปทรงกลมมน จะดีกว่าแบบที่มีแหง่มุม เพื่อป้องกันเด็กเล็กๆ หรือสัตว์เลี้ยงวิ่งชน รวมไปถึงควรเลือกแบบที่ไม่แตกหักง่าย และมีความคงทนพอสมควร เพราะนอกจากจะมีอายุการใช้งานยาวนานแล้ว เรายังไม่ต้องเปลี่ยนกันบ่อยๆ ซึ่งก็อาจจะเปลืองเงินไปโดยใช่เหตุ 3. มาดูในเรื่องของวัสดุที่ใช้ทำโต๊ะกลาง ส่วนใหญ่จะนิยมแบบที่ทำจากไม้และกระจก ถ้าเลือกไม้ให้เลือกเป็นไม้เนื้อแข็ง เพราะจะสามารถวางแก้วน้ำได้ และถ้าน้ำหกเลอะเทอะไม้ก็จะไม่บวมหรือเสียรูปทรง แต่ถ้าเป็นกระจกคุณก็สามารถวางสิ่งต่างๆ ได้ตามต้องการและยังทำความสะอาดได้ง่ายกว่า แต่ควรเลือกเป็นกระจกที่มีความหนาพอสมควรกันด้วยนะคะ เพราะถ้าเลือกแบบบางมาอาจเกิดแตกหักได้ง่าย  ภาพจาก indexlivingmall.com 4. สีสันถ้าอยากให้กลมกลืนให้เลือกเป็นสีโทนเดียวกลับชุดรับแขก แต่ถ้าอยากให้ดูโดดเด่นก็เลือกแบบที่มีสีสันตัดกันนะคะ ซึ่งถ้าหากคุณเลือกเป็นเฟอร์นิเจอร์ไม้และกระจกก็จะมีสีให้เลือกไม่มากเท่าไรนัก ดังนั้นอาจหาตัวช่วยเพิ่มเติมเช่น การใช้ผ้าปูโต๊ะคลุม นอกจากจะช่วยปกป้องเฟอร์นิเจอร์ได้แล้ว ยังช่วยให้ห้องดูสวยขึ้นได้อีกด้วย แต่จริงๆ แล้วส่วนใหญ่ไม้ก็จะเข้ากันได้ดีกับเฟอร์นิเจอร์ทุกรูปแบบ […]

เตียงนอนสองชั้นช่วยประหยัดพื้นที่ในห้อง

เตียงนอนสองชั้นช่วยประหยัดพื้นที่ในห้อง #ของแต่งบ้าน

ถ้าครอบครัวไหนมีสมาชิกในครอบครัวหลายคน การเลือกเฟอร์นิเจอร์ที่สามารถช่วยประหยัดเนื้อที่ภายในบ้านได้ถือเป็นเรื่องที่ดี เพราะจะได้ใช้พื้นที่ในการทำประโยชน์อย่างอื่น อย่างเช่นในห้องนอนบางครั้งจะมีพื้นที่ไม่กว้างมาก และถ้าสมาชิกในบ้านต้องนอนในห้องเดียวกัน การซื้อเตียงแบบสองชั้นจะสามารถตอบโจทย์ได้ดี ซึ่งจะมีข้อดีต่างๆ ดังนี้ ภาพจาก compare-price.thairath.co.th 1. ช่วยประหยัดพื้นที่ในห้อง ทำให้ห้องดูเป็นระเบียบและกว้างขึ้น สามารถตั้งไว้ในมุมใดมุมหนึ่งของห้องก็ได้ ปกตินิยมตั้งไว้ด้านที่เป็นผนังทึบ แต่จริงๆ แล้วเราสามารถวางเตียงชั้นไว้ทางด้านริมหน้าต่างได้เช่นกัน เพราะนอกจากจะช่วยให้ได้รับแสงสว่างได้เต็มที่ในตอนเช้าแล้ว ยังช่วยให้ผู้ที่นอนอยู่บนเตียงชมวิวทัศน์ด้านนอกได้อย่างสะดวกอีกด้วย  2. เพิ่มความรู้สึกเป็นส่วนตัวให้กับเจ้าของห้อง ถึงจะเป็นเพียงพื้นที่เล็กๆ แต่ก็สร้างความรู้สึกเป็นสัดส่วนได้ดีเช่นกัน รวมไปถึงหากใครนอนดิ้น การนอนคนเดียวก็จะเป็นเรื่องที่ดีเป็นอย่างมาก และยังไม่เป็นการรบกวนคนอื่นอีกด้วย  3. ปัจจุบันเตียงสองชั้นมีรูปแบบออกมามากมาย แตกต่างจากยุคก่อนๆ ที่จะมีเพียงแบบเดียวคือเป็นสองชั้นและมีบันไดเล็กๆ ขึ้นไปด้านบน เดี๋ยวนี้จะมีทั้งแบบเปิดโล่ง แบบมีประตูเปิดปิดได้ หรือจินตนาการเป็นบ้านแบบในนิยายก็ยังมี รวมไปถึงมีสีสันหลากหลาย และทำมาจากวัสดุหลายประเภท ทำให้คุณสามารถตกแต่งห้องนอนในรูปแบบที่ต้องการได้อย่างสบาย  4. เตียงสองชั้นบางครั้งก็ไม่ได้เหมาะเฉพาะครอบครัวที่มีสมาชิกหลายคนเพียงเท่านั้น แต่ยังสามารถใช้สำหรับรับแขกได้อีกด้วย เพราะปัจจุบันมีการออกแบบเตียงสองชั้น ให้ชั้นล่างมาพร้อมลิ้นชักใต้เตียง ที่เราจะไว้สำหรับเก็บของ หรือปูที่นอนอีกอันไว้สำหรับรับแขกได้อย่างสบาย   ภาพจาก baania.com 5. สำหรับวิธีในการเลือก จริงๆ แล้วสามารถเลือกตามความชอบของเจ้าของห้องได้เลย หรือจะให้ดีเลือกให้เขากันกับเฟอร์นิเจอร์ต่างๆ ในห้อง ไม่ว่าจะเป็น ตู้เสื้อผ้า โต๊ะเครื่องแป้ง […]

ตู้และชั้นวางรองเท้าเฟอร์นิเจอร์แต่งบ้านที่ไม่ควรมองข้าม

ตู้และชั้นวางรองเท้าเฟอร์นิเจอร์แต่งบ้านที่ไม่ควรมองข้าม

ถ้าอยากให้บ้านดูเป็นระเบียบเรียบร้อยมากยิ่งขึ้น เราควรเก็บทุกอย่างให้เข้าที่เข้าทาง อย่างรองเท้าก็เช่นกัน ยิ่งถ้ามีหลายคู่วางระเกะระกะไว้คงดูไม่ดีเป็นแน่ ทางที่ดีที่สุดก็คือเลือกซื้อชั้นหรือตู้สำหรับวางรองเท้าให้ดูเป็นสัดส่วนจะดีกว่า นอกจากจะดูเป็นระเบียบ สะดวกในการหยิบใช้งานแล้ว บางครั้งถ้าออกแบบดีๆ ยังเปลี่ยนมุมธรรมดาให้กลายเป็นมุมเก๋ภายในบ้านได้อีกด้วย สำหรับสิ่งที่ควรพิจาณาในการเลือกซื้อตู้วางเท้านั่นก็อย่างเช่น  ภาพจาก shopee.co.th 1. อันดับแรกเลยให้พิจารณารองเท้าที่มีอยู่เสียก่อนว่ามากน้อยแค่ไหน แล้วค่อยตัดสินใจซื้อตู้ที่มีขนาดพอจะใส่รองเท้าได้หมด แต่อย่าลืมนึกถึงอนาคตด้วยนะคะ เพราะส่วนมากมักจะมีการซื้อเพิ่มเติมเรื่อยๆ โดยคู่เก่าก็ยังเก็บไว้ แบบนี้ขนาดตู้น่าจะเลือกให้พอใส่รองเท้าได้สักสองหรือสามเท่าจากที่มีอยู่ จะได้ไม่ต้องเปลี่ยนกันบ่อยๆ  2. สามารถเลือกได้ทั้งแบบตู้รองเท้าที่มีประตูปิดด้านหน้าจะช่วยทำให้บริเวณนั้นดูเรียบร้อยมากยิ่งขึ้น แต่ถ้าซื้อเป็นแบบชั้นวางรองเท้าอาจจะดูไม่เรียบร้อยสักเท่าไร แต่ขอดีจะอยู่ตรงที่รองเท้าจะไม่อับชื้น และสามารถหยิบรองเท้าได้สะดวกกว่าแบบเป็นตู้ทึบ แต่ถ้าใครเลือกแบบตู้ก็ไม่ต้องกังวลว่าจะอับชื้น เพียงแค่คุณหาถุงกันชื้นไปใส่ไว้ หรือเปิดตู้ทิ้งเอาไว้บ้างเมื่อมีโอกาส แค่นี้ก็ช่วยป้องกันความอับชื้นกันได้แล้ว  3. สีสันเลือกได้ตามความชอบกันเลย ปัจจุบันมีสีออกมากมายรับรองได้เลยว่าจะต้องมีสีที่ถูกใจคุณ แต่จะให้สวยหรือดูกลมกลืน ก็ให้เลือกโทนสีเดียวกับเฟอร์นิเจอร์อื่นภายในบ้าน อย่างเช่น ถ้าภายในบ้านเฟอร์นิเจอร์ส่วนใหญ่เป็นไม้ และอยากให้ตู้เป็นไปในรูปแบบเดียวกันก็เลือกชั้นหรือตู้ใส่รองเท้าที่ผลิตมาจากไม้ เพียงเท่านี้ก็ดูกลมกลืนและสวยงามกันแล้วค่ะ ภาพจาก konceptfurniture.com 4. มากประโยชน์ในการใช้สอย หากต้องการให้เป็นมากกว่าที่วางรองเท้า ปัจจุบันเราสามารถเลือกให้มีรูปแบบอื่นหรือนำมาใช้สอยได้มากยิ่งขึ้น อย่างเช่น แบบเป็นตู้เตี้ยๆ แล้วมีเบาะอยู่ด้านบนสำหรับนั่งได้ นอกจากจะไว้สำหรับเวลานั่งใส่รองเท้าแล้ว ยังเป็นม้านั่งเล่นได้อีกด้วย หรือมีหลังตู้ไว้สำหรับวางสิ่งของเครื่องประดับต่างๆ ก็ช่วยเพิ่มบรรยากาศให้บ้านน่าอยู่ยิ่งขึ้นได้เป็นอย่างดี  ปัจจุบันชั้นวางรองเท้ายังมีการดีไซน์ออกแบบขึ้นมาให้คุณสามารถเลือกใช้ได้อยากหลากหลาย บางแบบยังทำให้มุมบ้านของคุณดูสวยสะดุดตา จนใครๆ หรือแขกเหรื่อที่มาอาจจะคิดไม่ถึงกันเลยว่านี่คือตู้วางรองเท้า […]

ทำไมจึงต้องสร้างหน้าต่างบ้านทางทิศตะวันออก

ทำไมจึงต้องสร้างหน้าต่างบ้านทางทิศตะวันออก #ของแต่งบ้าน

คุณอาจจะเคยสังเกตว่ามีบ้านหลายหลังที่มักจะสร้างหน้าต่างบ้านให้หันออกไปทางทิศตะวันออก ไม่ค่อยเน้นสร้างหน้าต่างบ้านให้หันออกไปทางทิศตะวันตกเท่าไหร่ แม้ว่าตามรูปแบบผังการออกแบบบ้านแล้วจะต้องมีมุมห้องที่ควรสร้างหน้าต่างบ้านทางทิศตะวันตก แต่เราก็มักเลือกที่จะไม่ให้มีหน้าต่างหากเป็นเช่นนั้น ซึ่งหากรู้สึกอึดอัดก็จะใช้วิธีแปะวอลเปเปอร์ภาพหน้าต่างแทน เพราะเหตุใดจึงต้องเน้นสร้างหน้าต่างบ้านทางทิศตะวันออก เรามาอ่านกันเลยดีกว่า หน้าต่างบ้านจะปลอดโปร่งเมื่อหันทางทิศตะวันออก ในยามเช้าแสงจากพระอาทิตย์จะสาดส่องมายังตัวบ้านแบบพอดีช่วยให้เกิดความอบอุ่น ซึ่งหากคุณสร้างหน้าต่างให้หันไปทางทิศตะวันออกก็จะสามารถรับรังสีความอบอุ่นจากแสงแดดที่จะทำให้ตอนเช้าตื่นมาแล้วรู้สึกเบิกบาน สดใส และพร้อมรับกับวันใหม่ได้ทุกวัน บรรยากาศในบ้านจึงดูปลอดโปร่งสบาย แต่หากทางทิศตะวันออกไม่มีหน้าต่างก็จะทำให้ภายในบ้านของคุณมีบรรยากาศที่ทึบและมืดครึ้มจนชวนให้หดหู่ได้ ด้วยเหตุนี้หน้าต่างบ้านจึงต้องเน้นสร้างให้หันไปทางทิศตะวันออก หน้าต่างบ้านหันทางทิศตะวันออกเป็นความเชื่อ ตามความเชื่อเรื่องฮวงจุ้ยและโชคชะตาที่ถ่ายทอดบอกเล่าสืบต่อกันมานั้น ได้กล่าวว่าหากคุณนอนหันหัวไปทางทิศตะวันตกจะมีแต่สิ่งโชคร้ายตามมา เพราะเป็นทิศของคนตายที่ความตายก็เหมือนดวงตะวันซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของพลังชีวิตที่หมดไปเมื่อลาลับขอบฟ้า เช่นเดียวกันหากเราสร้างหน้าต่างทางทิศตะวันตกก็จะเหมือนเป็นการเปิดรับสิ่งไม่ดีให้เข้ามาได้หรือสิ่งไม่ดีนั้นอาจจะเฝ้าจับตามองคนในบ้านได้ ฉะนั้นหน้าต่างบ้านจึงต้องเน้นสร้างให้หันไปทางทิศตะวันออกเพื่อเปิดรับพลังแห่งชีวิตตลอดเวลา เพราะแสงสว่างทุกอย่างไม่ว่าจะมาจากดวงอาทิตย์ธรรมชาติหรือเทคโนโลยีก็ล้วนแต่อยู่ทางทิศตะวันออกทั้งนั้น หน้าต่างบ้านจะช่วยให้เห็นสถานการณ์ภายนอกเมื่อหันทางทิศตะวันออก การสร้างหน้าต่างบ้านให้หันไปทางทิศตะวันออกจะช่วยให้คนในบ้านสามารถมองเห็นสถานการณ์ต่าง ๆ ได้อย่างชัดเจนและทันท่วงที เพราะตามปกติแล้วตัวบ้านของทุกคนก็จะหันหน้าไปทางทิศตะวันออกซึ่งจะมองเห็นผู้คนที่เดินไปเดินมาหรือหากใครมายืนหน้าบ้านของเรา เราก็สามารถจะออกไปดูได้ทัน และหากเกิดกรณีฉุกเฉินใด ๆ ก็สามารถเห็นได้มากกว่าด้านทิศตะวันตกซึ่งส่วนใหญ่จะไม่ค่อยมีสิ่งปลูกสร้างที่หันไปฝั่งนั้นมากเท่าไหร่ ฉะนั้นแล้วหน้าต่างบ้านจึงต้องเน้นสร้างให้หันไปทางทิศตะวันออกเพื่อให้รู้ทันข่าวสารจากหูและตาอย่างรวดเร็ว ยิ่งมี 2 – 3 บานก็ยิ่งดี รูปภาพประกอบ : Pixabay #ต่างบ้านทางทิศตะวันออก #ของแต่งบ้านราคาถูก #ของแต่งบ้านวินเทจ #ของแต่งบ้านIKEA

ทำไมจึงควรทำชั้นลอยในบ้าน

ทำไมจึงควรทำชั้นลอยในบ้าน #ของแต่งบ้าน

“ชั้นลอย” เป็นชั้นบนของอาคารหรือบ้านที่อยู่ระหว่างชั้นล่างกับชั้นที่สอง โดยที่เราจะสามารถเข้าถึงได้จากชั้นล่างแบบเปิดโล่งหรืออาจจะเป็นระเบียงที่ยื่นออกมาซึ่งมีความสูงเป็นสองเท่าของชั้นปกติ หากพูดให้ถูกก็คือ ชั้นลอยเป็นส่วนหนึ่งของชั้นที่สองนั่นเอง เราจะเห็นได้ว่าบ้านสมัยใหม่แบบโมเดิร์นมักจะมีการทำชั้นลอยไว้ทั้งนั้น แต่คนที่อยู่บ้านทั่วไปกลับมองว่ามันอันตรายและดูจะสิ้นเปลืองเปล่า ๆ แต่ความจริงแล้วหากคุณศึกษาดี ๆ จะรู้ว่าชั้นลอยเป็นชั้นที่ควรทำไว้ในบ้านสองชั้นทุกหลังนะ เพราะอะไรเราไปดูกันดีกว่า การสร้างชั้นลอยทำให้มองเห็นสภาพแวดล้อมชั้นล่างชัดเจน ในเวลาที่เราต้องการจะจัดบ้านหรือปรับเปลี่ยนตำแหน่งสิ่งของในบ้านให้ดีกว่าเดิมย่อมต้องมีการคำนวณพื้นที่และมุมที่เหมาะสม ซึ่งการมองจากมุมสูงย่อมเห็นภาพตำแหน่งความมีระเบียบของสิ่งจองเฟอร์นิเจอร์นั้น ๆ ได้ดีกว่าการมองข้างหน้าตรง ๆ เพราะการมองจากมุมสูงจะทำให้เราเห็นพื้นที่และตำแหน่งได้อย่างกว้างขวาง สามารถคำนวณการ ใช้พื้นที่จัดออกมาได้ดี ชั้นลอยที่เป็นชั้นเปิดโล่งจึงสามารถช่วยให้เรามองเห็นสภาพแวดล้อมชั้นล่างชัดเจนและยังช่วยให้เราสามารถมองเห็นสถานการณ์ผิดปกติได้อย่างทันท่วงที เช่น มีคนแปลกหน้าแอบเข้ามาในบ้านที่ชั้นล่าง คุณที่อยู่ชั้นลอยจะสามารถเห็นได้และโทรแจ้งตำรวจทัน เป็นต้น การสร้างชั้นลอยทำให้ชั้นบนไม่มีกลิ่นอับ ในบ้านทั่วไปเมื่อเราขึ้นไปยังชั้นบนก็มักจะมีทางเดินที่แคบและมองไม่เห็นชั้นล่างเพราะถูกสร้างด้วยผนังบ้านกั้น ซึ่งสังเกตว่ามักจะมีกลิ่นอับตามสภาพอากาศที่แปรเปลี่ยนนานวันเข้าอยู่เสมอ กลิ่นอับก็มาจากสาเหตุนี้ล่ะค่ะ แต่หากคุรเปลี่ยนมาสร้างชั้นลอยให้เป็นแบบระเบียงโล่ง ๆ ตามทางเดินไปยังห้องต่าง ๆ ก็จะไม่ต้องเวียนหัวกับกลิ่นอับอีกต่อไป เพราะชั้นลอยจะช่วยถ่ายเทอากาศได้เป็นอย่างดี การสร้างชั้นลอยทำให้บรรยากาศปลอดโปร่ง การสร้างชั้นลอยจะทำให้บรรยากาศชั้นบนของบ้านมีความปลอดโปร่ง เพราะไม่มีผนังมาคั่นลมหรือการถ่ายเทอากาศที่อัดแน่นกันอยู่จนทำให้เราอึดอัดและอาจมีปัญหาสุขภาพได้ แม้แต่เวลาที่คุณเกิดเจ็บป่วยอย่างฉุกเฉินที่ชั้นบนก็ย่อมยากที่จะมีใครได้ยินเพราะผนังเช่นกัน ฉะนั้นแล้วการสร้างชั้นลอยจึงมีประโยชน์มากมายที่คุณไม่ควรจะมองข้าม เพราะมันย่อมทำให้บ้านของคุณน่าอยู่มากขึ้นอย่างแน่นอน  เราฝากให้นำไปคิดดูนะคะ เผื่อว่าคุณอยากจะรีโนเวทบ้านชั้นบนให้กลายเป็นชั้นลอยก็สามารถทำได้ไม่ยาก ทำดูแล้วคุณจะรู้สึกได้ถึงการเปลี่ยนแปลงของชีวิตในบ้านตัวเองเลย รูปภาพประกอบ : Pixabay #ของแต่งบ้านราคาถูก #ของแต่งบ้านวินเทจ #ของแต่งบ้านIKEA #ชั้นลอย

ชั้นวางทีวีเลือกอย่างไรให้สวยลงตัว

ชั้นวางทีวีเลือกอย่างไรให้สวยลงตัว

อีกหนึ่งเฟอร์นิเจอร์ที่มีกันเกือบทุกบ้านเช่นกัน แต่บางบ้านอาจจะใช้เป็นตู้วางทีวีสองแบบนี้จะแตกต่างกันตรงที่ถ้าเป็นชั้น จะมีประมาณ 2-3 ชั้น เป็นแบบเปิดโล่ง ชั้นบนสำหรับวางทีวี แต่ชั้นล่างก็มักจะนิยมวางของเล็กๆ น้อยกระจุกกระจิก หรือไม่ก็เป็นประเภทหนังสือ แต่ถ้าเป็นแบบตู้จะมีประตูปิดที่บริเวณด้านล่าง อาจจะเป็นประตูบานทึบหรือประตูกระจกก็จะขึ้นอยู่กับความชอบของผู้ใช้งาน ที่นี่เรามาดูวิธีการเลือกกันดีกว่าว่าควรพิจารณาจากอะไรกันบ้าง  1. ขนาดของชั้นควรมีฐานสำหรับวางที่ใหญ่กว่าจอทีวีเล็กน้อย เพื่อให้ทีวีวางได้อย่างมั่นคงไม่หมิ่นเหม่เหมือนจะหล่นได้ง่าย เรื่องนี้ค่อนข้างสำคัญอย่ามองข้ามกันอย่างเด็ดขาด ดังนั้นขนาดชั้นจะเล็กหรือใหญ่ให้เราดูจากขนาดของทีวี  2. ควรมีความแข็งแรงพอสมควร หรือตั้งได้อย่างมั่นคงไม่โอนเอียงและที่สำคัญถ้าเป็นทีวีรุ่นเก่าๆ จะค่อนข้างหนักและมีน้ำหนักมาก ควรเลือกชั้นวางทีวีที่ผลิตจากวัสดุที่แข็งแรงทนทาน แต่ถ้าเป็นทีวีรุ่นใหม่ๆ จะมีน้ำหนักเบากว่า ผอมบางกว่า และไม่ค่อยกินเนื้อที่เท่าไรนัก สามารถเลือกวัสดุได้ตามความต้องการกันได้เลย   3. รูปแบบและสีสันควรเลือกให้เข้ากับกลับเฟอร์นิเจอร์อื่นๆ ภายในห้องกันด้วย เพื่อความสวยงามกลมกลืน แต่การเลือกให้มีสีสันแตกต่างกันก็ช่วยให้ดูสวยโดดเด่นและสะดุดตาได้เช่นกันนะคะ สำหรับในเรื่องนี้อาจต้องแล้วแต่ความชอบของแต่ละท่านประกอบกันด้วย หรืออาจดูจากสไตล์การแต่งบ้านของเราเป็นหลัก จากนั้นเลือกให้ไปในทิศทางเดียวกัน ก็จะช่วยให้บ้านคุณสวยได้อย่างลงตัว 4. นอกจากทีวีแล้วบางครั้งเราอาจจะวางอุปกรณ์อื่นๆ ที่ใช้ร่วมกับทีวีกันด้วย เช่น เครื่องเล่นวีดีโอ เครื่องเล่นซีดี เครื่องเสียง และลำโพง เป็นต้น หรือบางท่านอาจวางเป็นของประดับต่างๆ เช่น แจกันดอกไม้ ตุ๊กตาเซรมิค รูปปั้น หรือกรอบรูปต่างๆ ดังนั้นถ้าคุณคิดวางอะไรหลายอย่างก็อย่าลืมเลือกแบบที่สามารถจัดเก็บอุปกรณ์อย่างอื่นไว้ในที่เดียวกันได้ กันด้วยนะคะ เพื่อให้บ้านดูเป็นระเบียบเรียบร้อยมากยิ่งขึ้น  […]

เลือกผ้าม่านสำหรับห้องรับแขกอย่างไรดี

เลือกผ้าม่านสำหรับห้องรับแขกอย่างไรดี

ห้องรับแขกมักจะเป็นห้องที่อยู่บริเวณส่วนหน้าของตัวบ้านเปรียบเสมือนเป็นด่านแรกเมื่อแขกมาเยือน ห้องนี้ยังบ่งบอกถึงรสนิยมของเจ้าของบ้านได้เป็นอย่างดีอีกด้วย หลายคนเลือกตกแต่งห้องนี้ตามความชอบของตัวเองไม่ว่าจะเป็นการเลือกสรรเฟอร์นิเจอร์ กาตกแต่งสีสันภายในห้อง รวมไปถึงการเลือกผ้าม่านที่มีส่วนช่วยทำให้ห้องของคุณสวยหรูในแบบที่คุณต้องการได้มากยิ่งขึ้น สำหรับหลักในการเลือกผ้าม่านสำหรับห้องรับแขกนั้นพอจะสรุปได้ดังนี้ค่ะ  1. ควรเลือกให้มีสีสันกลมกลืนไปกับเฟอร์นิเจอร์ภายในห้อง หรือสีของผนังห้อง แต่ถ้าใครอยากเล่นสีสันให้ห้องดูสดใส คุณอาจจะเลือกในแบบที่เป็นโทนสีตัดกัน ก็ช่วยให้ห้องรับแขกของคุณสวยแปลกตาไปได้เช่นกัน ซึ่งส่วนใหญ่ห้องรับแขกเรามักอยากให้ออกแนวโทนสีสุภาพ เพราะจะช่วยให้ห้องสวยคลาสิค สำหรับในเรื่องนี้คงต้องแล้วแต่ความชอบของแต่ละคนประกอบกันด้วยนะคะ  2. ถ้าห้องรับแขกตั้งอยู่ในด้านที่แดดส่องถึงในช่วงเวลากลางวัน ควรเลือกผ้าม่านที่มีความหนากันสักหน่อย หรือเลือกแบบเป็นผ้าม่านสองชั้นก็จะช่วยป้องกันแสงแดดส่องกระทบเฟอร์นิเจอร์ได้เป็นอย่างดี ทราบกันไหมค่ะว่าเฟอร์นิเจอร์บางประเภทไม่ควรโดนแสงแดดจนเกินไป เพราะจะทำให้สีซีดจางได้ และอาจเสื่อมสภาพลงไปเร็วกว่าเวลาอันควรนั่นเองค่ะ นอกจากนี้ผ้าม่านที่หนายังช่วยกันเสียงรบกวนจากภายนอกได้เป็นอย่างดีอีกด้วย  3. เลือกให้มีลักษณะเนื้อผ้าและรูปแบบไปในแนวทางเดียวกับการตกแต่งห้อง เช่น ถ้าห้องรับแขกออกมาในแนวหรูก็ควรเลือกผ้าม่านสไตล์หรูๆ อย่างผ้าม่านหลุยส์ แต่ถ้าห้องออกสไตล์เรียบๆ ผ้าม่านที่เหมาะควรเป็นโทนสีพื้นจะเป็นโทนอ่อนหรือโทนเข้มก็ตามความชอบของเจ้าของบ้านกันได้เลยค่ะ  4. สำหรับรูปแบบม่านจะเป็นม่านจีบ ม่านม้วน หรือม่านพับ ก็ให้ขึ้นอยู่กับความสะดวกในการใช้งานและความชอบประกอบกันนะคะ ซึ่งแต่ละแบบก็จะมีความสวยงามแตกต่างกัน  5. มาดูที่สีของผ้าม่านกันบ้าง หากคุณต้องการให้ภายในห้องดูกว้าง โล่ง มองแล้วโปร่งสบายตา แนะนำให้เลือกสีผ้าม่านแบบโทนอ่อน อย่างเช่น สีขาว สีครีม สีฟ้า สีชมพู และสีเขียวอ่อน เป็นต้น แต่ถ้าอยากให้ห้องดูสงบ เงียบขรึม สีที่เหมาะควรเป็นสีในโนเข้มเช่น สีเทา สีน้ำเงิน และสีน้ำตาล […]

ตู้ลิ้นชักเฟอร์นิเจอร์ช่วยจัดระเบียบให้ห้องครัว

ตู้ลิ้นชักเฟอร์นิเจอร์ช่วยจัดระเบียบให้ห้องครัว

ในห้องครัวมักจะมีของกระจุกกระจิกไม่แพ้ห้องอื่นๆ ภายในบ้าน ไม่ว่าจะเป็นพวกมีด ซ่อม ช้อน จานชาม วัตถุดิบในการประกอบอาหาร หม้อ กระทะ ตะหลิว ทัพพี เป็นต้น ของเหล่านี้ถ้าเอามาวางๆ ไว้บริเวณด้านนอก ก็มองดูรกไม่เรียบร้อย แต่ถ้าใส่ไว้ในตู้สักใบจะช่วยทำให้ห้องครัวดูเป็นระเบียบยิ่งขึ้น ที่สำคัญการเก็บไว้ในตู้ยังช่วยป้องกันไอน้ำมันหรือฝุ่นละอองต่างๆ ลอยไปเกาะในระหว่างทำอาหารอีกด้วย สำหรับการเลือกให้เหมาะควรเลือกเป็นตู้ลิ้นชัก แต่ก่อนอื่นเรามาดูข้อดีของตู้ลิ้นชักในห้องครัวกันก่อนดีกว่า  1. สะดวก สามารถแยกจัดของเป็นหมวดหมู่ได้ง่าย ทำให้หยิบของออกมาใช้ได้สะดวก ลองนึกภาพถ้าเป็นตู้แบบบานเปิดคุณต้องเก็บของไว้ในที่เดียวกันทั้งหมด เวลาจะหยิบแต่ละครั้งถ้าของอยู่ด้านในก็คงต้องรื้อออกมากันให้วุ่นวาย เสียเวลาหยิบแล้วยังต้องเสียเวลาเก็บกันอีก เพราะแบบนี้เองตู้ลิ้นชักจึงเป็นคำตอบ  2. ไม่เกะกะ อันนี้จะหมายถึงเวลาเปิดตู้ ถ้าเป็นแบบบานเปิดหรือบานทึบคุณต้องเปิดออกมาทั้งหมด ซึ่งจะกินเนื้อที่ในการเปิด แต่ลิ้นชักก็แค่ดึงมาลิ้นชักเดียวก็สามารถหยิบของที่ต้องการกันได้แล้ว แต่ก็ต้องจำให้ได้ด้วยนะว่าของเก็บไว้ในลิ้นชักไหน ไม่เช่นนั้นคงได้ดึงกันทุกลิ้นชักเป็นแน่  3. ตู้ลิ้นชักยังช่วยป้องกันฝุ่นละออง และไอจากการทำอาหารไม่ให้ไปเกาะที่วัสดุและอุปกรณ์อื่นได้ดี หากเราวางอุปกรณ์ที่ต้องใช้ในครัวไว้ด้านนอก รวมทั้งห้องครัวอยู่ในบ้านและไม่มีตัวระบายอากาศ โดยมากแล้วอุปกรณ์ต่างๆ เหล่านี้จะถูกไอน้ำมันจับ ถ้าปล่อยไว้นานก็จะเป็นมันและเป็นคราบสกปรกเกิดขึ้น แต่ถึงแม้ว่าในห้องครัวคุณจะติดตัวดูดครัว หรือมีที่ระบายอากาศ ไอน้ำมันอาจจะเกาะไม่มากแต่ก็ยังมีอยู่เช่นเดิม ดังนั้นการเก็บไว้ในตู้ชิ้นชักน่าจะเป็นทางเลือกที่ดีกว่า  4. ปัจจุบันมีตู้ลิ้นชักให้เราเลือกมาวางในห้องครัวได้หลากหลายรูปแบบ แต่เราก็ควรเลือกในแบบที่ชอบ และนึกถึงความสะดวกในการใช้งานกันด้วยนะคะ ง่ายๆ ก็คือ สวยด้วย […]

ออกแบบห้องน้ำ Outdoor ของที่พักอย่างไรให้น่าใช้

ออกแบบห้องน้ำ Outdoor ของที่พักอย่างไรให้น่าใช้ #ของแต่งบ้าน

สมัยนี้เวลาไปเที่ยวที่ไหนไม่ว่าใครก็อยากจะสัมผัสกับทิวทัศน์ที่สวยงามจากบนห้องพักของตัวเองและได้รับความเป็นส่วนตัวสูง เช่นเดียวกันกับการอาบน้ำที่ใคร ๆ ก็อยากมาอยู่ในห้องพักที่นอกจากจะมีระเบียงเห็นทิวทัศน์ได้ในมุม 360 องศาแล้ว ที่ขาดไม่ได้ก็คือ ห้องน้ำเป็นแบบ Outdoor ที่สามารถอาบน้ำได้อย่างสบายอารมณ์พร้อมกับเห็นภูมิทัศน์ความสวยงามของสภาพแวดล้อมทางธรรมชาติที่ตัวเองได้มาถึงจุดหมายปลายทางอีก แม้ราคาห้องพักแนวนี้จะแพงหน่อยแต่ลูกค้าก็ต้องยอมแน่นอนหากจะได้อารมณ์ที่ชิลล์ขนาดนี้ เราจึงอยากมาแนะนำ How To ออกแบบห้องน้ำ Outdoor ของที่พักคุณให้น่าใช้กัน รับรองว่าลูกค้าต้องถูกใจร้อยเปอร์เซ็นต์ ออกแบบห้องน้ำ Outdoor ของที่พักให้มีกระจกด้านเดียว แม้จะเป็นห้องน้ำแบบ Outdoor แต่ในบางที่พักก็ต้องป้องกันอันตรายที่อาจเกิดกับแขกจึงควรมีการติดตั้งกระจกใสด้านเดียวที่จะทำให้แขกสามารถอาบน้ำไปมองทิวทัศน์สวย ๆ ไปอย่างได้อารมณ์ดื่มด่ำกับความสบายเนื้อตัวและสบายใจที่ได้อาบน้ำท่ามกลางธรรมชาติสวย ๆ วิวหลักล้านขนาดนี้โดยที่ไม่มีใครเห็นได้ เพราะกระจกด้านเดียวจะมีความพิเศษตรงที่สามารถเห็นได้ด้านเดียว หากติดด้านที่สามารถเห็นได้ให้หันไปยังมุมของแขก ก็จะมีแค่แขกเท่านั้นที่สามารถเห็นทิวทัศน์นอกห้องได้ แต่คนด้านล่างที่อยู่อีกฝั่งของกระจกจะมองไม่เห็นแขก แม้จะอาบน้ำแบบร่างกายโล่งโจ้งแค่ไหนก็ไม่มีใครเห็นแขกแน่นอน เป็นห้องน้ำ Outdoor ที่น่าใช้มาก ออกแบบห้องน้ำ Outdoor ของที่พักให้อ่างน้ำหรือฝักบัวอยู่ริมกระจก ไหน ๆ ก็จะออกแบบห้องน้ำแบบ Outdoor แล้ว ฝักบัวกับอ่างน้ำจะให้ไปติดตั้งมุมในสุดของห้องน้ำที่อับได้อย่างไรกัน ต้องนำไปติดตั้งอยู่ริมกระจกสิถึงจะเห็นวิวทิวทัศน์เลิศหรูอลังการดาวล้านดวง เพียงแค่แขกเปิดประตูเข้ามาและมองไปยังด้านข้างก็จะเจอกับกระจกบานใหญ่ที่ภายนอกมีแต่ทิวทัศน์ธรรมชาติสวยงามแล้ว แขกสามารถเปิดน้ำและเลือกได้ว่าจะลงอ่างนอนชมทิวทัศน์ Outdoor แบบสบายใจ เต็มไปด้วยฟองสบู่หอม ๆ หรือจะยืนอาบฝักบัวให้เย็นเหมือนอยู่ที่น้ำตกแบบเข้ากันกับบรรยากาศ ใคร ๆ […]