BAAN-DECOR

เลือกสีทาบ้านให้สวยติดทนนาน 

เลือกสีทาบ้านให้สวยติดทนนาน 

สีทาบ้านมีส่วนสำคัญที่ช่วยทำให้บ้านของคุณสวยและดูดีได้ การเลือกสีสำหรับทาบ้านจึงเป็นเรื่องที่ไม่ควรมองข้าม ทำให้หลายท่านมักจะใส่ใจในเรื่องนี้กันเป็นพิเศษ เพราะหากต้องการให้สีอยู่ทนนานเราต้องใช้สีที่เหมาะสมกับสภาพแวดล้อมต่างๆ รวมไปถึงพื้นที่ที่ต้องการใช้ ดังนั้นนอกจากการเลือกสีให้ถูกใจผู้อยู่อาศัยกันแล้วเราควรคำนึงถึงสิ่งอื่นประกอบกันด้วย อาทิเช่น  ภาพจาก home.kapook.com 1. ควรแยกประเภทสีในการใช้ เช่น สีทาภายนอก หรือสีทาภายใน และเลือกใช้ให้ถูกประเภท เพราะสีทาภายในโดยมากแล้วจะมีราคาถูกกว่าสีทาภายนอก ถ้าเราเลือกเหมือนกันหมดแล้วนำมาทาภายนอกด้วยเพื่อความประหยัดก็สามารถทำได้ แต่สีภายในเมื่อนำมาทาภายนอกจะไม่คงทน และจะซีดจางในเวลาอันรวดเร็ว เนื่องจากสีทาภายในจะไม่ทนแดดทนฝน ดังนั้นจึงควรเลือกประเภทที่ใช้ให้ถูกต้อง  2. สีทาภายนอกถ้าเป็นสีสดๆ จะมีความคงทนกว่าสีอ่อนๆ แต่สำหรับสีทาภายในสามารถเลือกกันได้ตามความต้องการกันได้เลยนะคะ เพราะสีภายในจะเป็นสีที่อยู่ในร่มจึงไม่ค่อยมีปัญหาในเรื่องของการซีดจางได้ง่ายๆ เท่าไรนัก แต่จะให้สวยอย่าลืมเลือกให้เหมาะกับเฟอร์นิเจอร์ภายในบ้านหรือสไตล์การแต่งบ้านกันด้วยนะคะ 3. ควรเลือกสีให้ตรงกับวัสดุที่ใช้ปลูกสร้างบ้านหรือตกแต่งบ้าน เช่น หากวัสดุก่อสร้างเป็นไม้ควรเลือกใช้สีสำหรับทาไม้โดยเฉพาะ หรือถ้าเป็นบ้านอิฐก็ควรเลือกสีสำหรับทาอิฐ เป็นต้น เพราะสีที่เหมาะสำหรับวัสดุแต่ละประเภทก็จะช่วยทำให้เมื่อทาแล้วสีติดทนนานกว่าการใช้ผิดประเภทนั่นเองค่ะ  4. สีที่ใช้ในปัจจุบันจะมีหลายเกรด ถ้าเราเลือกเกรดดีๆ ก็จะมีส่วนช่วยทำให้สีติดทนนานยิ่งขึ้น แต่ถ้าเลือกเกรดที่มีคุณภาพต่ำลงไปจำนวนปีที่สีจะไม่ซีดจางก็จะน้อยตามลงไปตามเกรดของสี ดังนั้นควรเลือกให้ตรงกับความต้องการและงบประมาณที่ตั้งไว้  ภาพจาก ddproperty.com 5. การเลือกใช้สีที่ผลิตได้อย่างมาตรฐานหรือเป็นยี่ห้อที่เป็นที่รู้จักของคนทั่วไป ก็จะมีส่วนในเรื่องของความคงทนเช่นกัน ลักษณะเดียวกับการเลือกสีเกรดดีๆ นั่นเองค่ะ ซึ่งราคาอาจจะสูงไปซะหน่อย แต่รับรองได้เลยว่าเมื่อเทียบกับระยะเวลาและความคงทนกว่าสีจะซีดจางก็ถือได้ว่าคุ้มค่าเป็นอย่างมาก  ทราบกันแบบนี้ถ้าอยากให้สีที่ทาติดทนนานเราจึงควรใส่ใจในการเลือกใช้กันด้วยนะคะ ก็จะสามารถช่วยทำให้สีทาบ้านติดทนนานไม่ซีดจางง่ายๆ อย่างที่ต้องการกันแล้วค่ะ สนใจดูวิธีการเลือกสีทาบ้านสามารถดูที่นี่กันได้เลยนะคะ>> https://youtu.be/jlNbPSTcNu8 

ไอเดียดีๆ ในการเลือกตู้เสื้อผ้าในห้องนอน

ไอเดียดีๆ ในการเลือกตู้เสื้อผ้าในห้องนอน1

ปกติทุกคนต้องสวมเสื้อผ้าเป็นประจำกันอยู่แล้ว หรือก็คือในหนึ่งปีเราสวมเสื้อผ้ากันตลอด 365 วัน ทำให้เสื้อผ้าที่มีต้องมากกว่า 1 ชุดอย่างแน่นอน ดังนั้นเราจึงควรมีตู้เสื้อผ้าไว้สำหรับเก็บเสื้อผ้าและของใช้ส่วนตัวอย่างน้อยคนละ 1 ตู้ แต่ถ้าใครมีเสื้อเยอะก็อาจจะมีมากกว่านี้ได้ หรืออาจจะเลือกซื้อแบบแยกประเภทสำหรับใส่เสื้อผ้ากันไปเลย เช่น ตู้สำหรับใส่เสื้อ สำหรับใส่กางเกง สำหรับใส่ชุดชั้นใน หรือสำหรับใส่ถุงเท้ารองเท้า เป็นต้น แต่ไม่ว่าจะเลือกแบบไหนเราดูวิธีรวมๆ ในการเลือกซื้อกันก่อนดีกว่าค่ะ ว่าจะเลือกยังไงให้เหมาะและลงตัว แถมยังช่วยให้ห้องนอนสวยเหมาะสำหรับพักผ่อนกันอีกด้วย  ภาพจาก propholic.com 1. เลือกขนาดของตู้เสื้อผ้า โดยให้พิจารณาจากเสื้อผ้าที่มี รวมไปถึงสถานที่ที่จะนำตู้ไปตั้งมีขนาดกว้างหรือแคบแค่ไหน ถ้าภายในห้องมีพื้นที่ไม่กว้างมากนักควรเลือกตู้ที่มีความกว้างไม่มากแต่ให้เน้นที่ความสูง เอาแบบเกือบติดเพดานเลยยิ่งดี เพื่อให้สามารถเก็บเสื้อผ้าได้มากขึ้น แต่หากภายในห้องนอนของคุณค่อนข้างกว้างขวางก็ให้เลือกจากปริมาณเสื้อผ้าหรือก็คือต้องใส่ได้หมดแบบไม่แออัดหรือยัดเหยียดกันจนเกินไป 2. ตู้เสื้อผ้าควรเป็นตู้ที่มีบานประตูปิดอย่างมิดชิด เพื่อป้องกันฝุ่นละอองต่างๆ เข้าไปจับเสื้อผ้า แต่ก็ต้องสามารถระบายอากาศได้ดีกันด้วยนะคะ เพื่อช่วยป้องกันความอับชื้น เพราะเจ้าความอับชื้นที่เองที่เป็นตัวการสำคัญทำให้เสื้อผ้าของเราเกิดความเสียหายขึ้นได้  3. เพื่อความสะดวกและประหยัดเนื้อที่การเลือกเป็นประตูบานเลื่อนก็ช่วยให้สามารถเปิดปิดได้สะดวกยิ่งขึ้น หรือใครที่พอมีงบประมาณมากหน่อยอาจจะทำเป็นตู้บิวอินเนียนเรียบไปกลับผนังก็ดูสวยได้แบบลงตัวเช่นกัน เพียงแค่ว่าตู้บิวอินหากทำแล้วเราจะไม่สามารถปรับเปลี่ยนหรือย้ายมุมได้เท่านั้น  แต่ความคงทนบอกได้เลยว่านานมาก หรือจนกว่าเราจะทุบทิ้งทำใหม่กันเลยทีเดียว  ภาพจาก forfur.com 4. ตู้เสื้อผ้าควรวางในมุมที่ไม่บังแสงจากภายนอก หรือก็คือควรตั้งในฝั่งที่เป็นผนังจะดีกว่าวางในจุดที่มีหน้าต่างนั่นเอง  5. หากคุณเป็นคนที่ชอบแต่งบ้านให้ดูเรียบง่าย แนะนำให้เลือกตู้เสื้อผ้าที่มีโทนสีเดียวกับเฟอร์นิเจอร์ภายในห้อง แต่ถ้าชอบอะไรที่แตกต่างมีสีสัน ให้เลือกเฟอร์นิเจอร์แต่ละชิ้นให้มีสีสันไม่เหมือนกันก็หรือตามความชอบกันได้เลย  […]

ไอเดียดีๆ ติดผ้าม่านในห้องแต่งตัว 

ไอเดียดีๆ ติดผ้าม่านในห้องแต่งตัว 

ห้องแต่งตัวจะเป็นห้องที่เราเก็บพวกเสื้อผ้า เครื่องประดับ รองเท้า และของใช้ส่วนตัวต่างๆ หลายคนอาจจะมีห้องแต่งตัวอยู่ภายในห้องนอนแล้วแยกส่วนกันไว้ แต่บางคนก็มีเป็นห้องแยกต่างหากเพื่อความเป็นระเบียบเรียบร้อย ส่วนใหญ่แล้วห้องนี้จะมีเฟอร์นิเจอร์ไม่มากอาจจะมีตู้สำหรับเก็บเสื้อผ้าและเครื่องประดับ ตู้กระจก หรือบางครั้งก็อาจจะมีโต๊ะเครื่องแป้งอยู่ในห้องกันด้วยเลย แต่ถ้าคุณต้องการให้ห้องดูเป็นสัดส่วนและดูดีขึ้นการติดตั้งผ้าม่านก็มีส่วนช่วยได้ดีค่ะ โดยผ้าม่านที่เหมาะสำหรับห้องนี้ควรมีลักษณะดังนี้ค่ะ ภาพจาก ikea.com 1. ผ้าม่านควรมีความหนาพอสมควร แต่สามารถเลือกได้ทั้งแบบเป็นผ้าม่านกรองแสงหรือกันแสงกันได้เลย การที่เราควรเลือกผ้าม่านที่มีเนื้อหนา ก็เพราะว่าห้องแต่งตัวควรสามารถปังสายตาจากคนภายนอกได้เป็นอย่างดี ถ้าภายในห้องนั้นมีหน้าต่างอยู่ในมุมใดมุมหนึ่ง หรืออาจเลือกเป็นแบบผ้าม่านสองชั้น ก็ช่วยเพิ่มความสวยหรูดูดีให้แก่ห้องได้มากยิ่งขึ้น  2. สำหรับสีของผ้าม่านสามารถเลือกได้ตามความชอบกันเลย แต่ถ้าอยากให้สวยและดูกลมกลืนอย่าลืมเลือกให้สีไปในเฉดเดียวกับเฟอร์นิเจอร์ในห้องกันด้วยนะคะ นอกจากนี้ยังมีเคล็ดลับในการเลือกอีกหลายรูปแบบ อย่างเช่น หากคุณต้องการให้ห้องสว่าง ควรเลือกผ้าม่านที่มีสีในโทนอ่อนอย่างเช่น สีขาว สีเหลือง สีชมพู สีเขียวอ่อน และสีฟ้า เป็นต้น ที่สำคัญสีในโทนอ่อนยังช่วยให้ห้องดูกว้างขึ้นได้อีกด้วย ในทางกับกันถ้าต้องการให้ห้องดูขรึมๆ และมองดูแคบลงก็ให้เลือกเป็นโทนสีเข้มๆ อย่างเช่น สีน้ำตาล สีเทา และสีน้ำเงิน  3. ถ้าต้องการติดผ้าม่านพื่อเป็นการแยกส่วนของห้อง โดยส่วนมากห้องแต่งตัวมักจะอยู่ในบริเวณห้องนอน อาจจะจัดเป็นมุมใดมุมหนึ่ง หรือแบ่งครึ่งห้องไปเลย และคุณไม่อยากให้ห้องดูทึบจนเกินไป แนะนำให้เลือกผ้าม่านที่เป็นโทนสีสว่างนะคะ ผ้าม่านจะสามารถแบ่งสัดส่วนของห้องได้เป็นอย่างดี โดยเราไม่ต้องกั้นกำแพงหรือก่อผนังให้เสียเวลา ที่สำคัญยังช่วยประหยัดงบประมาณได้อีกด้วย  ภาพจาก homify.pt 4. ถ้าคุณติดผ้าม่านไว้บริเวณหน้าต่างในส่วนของห้องแต่งตัว […]

สิ่งของที่ไม่ควรนำมาวางบนเคาน์เตอร์ครัว

สิ่งของที่ไม่ควรนำมาวางบนเคาน์เตอร์ครัว

บนเคาน์เตอร์ห้องครัวเป็นมุมสำคัญที่ควรจะมีแต่เครื่องครัวและของจำเป็นที่ช่วยสร้างสีสันเท่านั้น แม้ว่าคุณจะสามารถตกแต่งเคาน์เตอร์ห้องครัวได้แต่ก่อนไม่ควรจะมากเกินพอดี เพราะอาจทำให้มีปัญหาด้านการทำความสะอาดมากมายตามมา และสิ่งของที่ไม่ควรนำมาวางไว้บนเคาน์เตอร์ก็เป็นสิ่งที่คุณต้องรู้ว่าทำไม? เราไปดูกันเถอะว่าเหตุใดจึงควรหลีกเลี่ยงการวางสิ่งของเหล่านี้ มันจะส่งผลเสียอะไรต่อเคาน์เตอร์ห้องครัวบ้าง? ห้ามนำหนังสือวางบนเคาน์เตอร์ครัว หนังสือเป็นสิ่งของที่มีความบอบบางและความทนทานต่ออุณหภูมิสูงที่น้อยมาก หากนำหนังสือต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นนิตยสารหรือนิยายไปวางกองเรียงบนเคาน์เตอร์ครัว ความร้อนจากการทำอาหารและเศษอาหารต่าง ๆ ก็จะไปติดตามปกหรือสันหนังสือจนเกิดความมันได้ อีกทั้งหน้ากระดาษหนังสือก็จะเปื่อย ดูไม่สวย และเสื่อมสภาพเร็วกว่าปกติจึงไม่ควรนำมาวางบนเคาน์เตอร์ครัว ตรงนี้ต้องระวังเป็นอย่างมาก เพราะหลายคนมักจะชอบวางนิตยสารบริเวณนี้บ่อย ๆ เพื่อหากิจกรรมการอ่านคั่นรอระหว่างที่กำลังทำภารกิจ หนังสือควรจะถูกเก็บไว้ในชั้นบริเวณห้องนั่งเล่นหรือห้องนอนจะเหมาะสมกว่า นอกจากนี้หากเอาไว้นาน ฝุ่นก็จะจับตัวกันที่หนังสือและปลิวมาลงอาหารหรือภาชนะสะอาดได้ ซึ่งอนามัยของห้องครัวก็จะลดลงไปอีก ห้ามนำเครื่องใช้ไฟฟ้าวางบนเคาน์เตอร์ครัว แม้ว่าในห้องครัวจะเต็มไปด้วยเครื่องใช้ไฟฟ้ามากมายที่วางหรือเก็บบริเวณเคาน์เตอร์ ไม่ว่าจะเป็นกระทะไฟฟ้า ไมโครเวฟ เครื่องคั้นน้ำผลไม้ และอื่น ๆ แต่เครื่องใช้ไฟฟ้าทุกชนิดก็ถูกออกแบบมาให้อยู่กับอุณหภูมิและสภาพของห้องครัวอยู่แล้ว เราจึงสามารถมั่นใจในความปลอดภัยได้สูงกว่าเครื่องใช้ไฟฟ้าในบ้านชนิดอื่นที่ทำมาไว้ประจำตามห้องนั่งเล่นหรือห้องทั่วไป เช่น คอมพิวเตอร์ ,โทรทัศน์ ,เครื่องโทรศัพท์บ้าน เป็นต้น แต่คนในบ้านมักจะชอบรักความสะดวกสบายอยากทำกิจกรรมมากมายในห้องครัวเพื่อไม่ให้การทำอาหารเป็นไปด้วยความน่าเบื่อโดยนำอุปกรณ์เหล่านี้มาตั้งไว้บนเคาน์เตอร์ซึ่งนอกจากฝุ่นจะเยอะแล้ว หากถูกน้ำหรือความอับของห้องครัวที่มีขนาดเล็กก็อาจพังก่อนวันหมดอายุใช้งานหรืออาจเกิดอันตรายได้อย่างที่คุณคาดไม่ถึง จึงไม่ควรนำเครื่องใช้ไฟฟ้าอื่น ๆ ที่ไม่เกี่ยวกับงานครัวมาวางบนเคาน์เตอร์ห้องครัว ห้ามนำชั้นวางของต่าง ๆ วางบนเคาน์เตอร์ครัว ย่อมเป็นเรื่องธรรมดาหากคนในบ้านจะนำชั้นวางของมาตั้งบนเคาน์เตอร์เพื่อวางวัตถุดิบสำหรับการปรุงรสอาหารหรือการชงเครื่องดื่มต่าง ๆ ซึ่งชั้นที่ว่างโดยปกติจะเป็นชั้นวางของขนาดกะทัดรัดจึงไม่มีผลใด ๆ ต่อเคาน์เตอร์ แต่หากคุณจะนำชั้นวางของตกแต่งบ้านขนาดกว้างและใหญ่มาไว้บนเคาน์เตอร์ห้องครัว ตรงนี้จะไม่เหมาะสมเอามาก ๆ […]

วิธีกำจัดกลิ่นเหม็นในห้องน้ำ

วิธีกำจัดกลิ่นเหม็นในห้องน้ำ

เมื่อห้องน้ำของคุณมีกลิ่นเหม็นจากของเสียในชักโครกที่แห้งหมักหมม ท่อน้ำ หรือความอับชื้นใด ๆ ก็ตามแต่ คงไม่มีใครที่อยากจะเข้าไปอยู่ในห้องน้ำนั้น ๆ มากเท่าไหร่แม้ห้องน้ำจะสวยงามและดูภายนอกสะอาดสะอ้านเพียงใด แต่หากนามธรรมมันไม่น่าอภิรมย์ก็ขอไปใช้ห้องน้ำที่อื่นดีกว่า วันนี้เราจึงมีวิธีกำจัดกลิ่นเหม็นในห้องน้ำมาแนะนำแก่ทุกคนค่ะ ไม่ยากและทำให้ห้องน้ำของคุณกลับมามีกลิ่นหอมจนชวนให้อยากอยู่ในนั้นไปนาน ๆ แน่นอน กำจัดกลิ่นเหม็นในห้องน้ำด้วยมะกรูด นับเป็นวิธีแบบไทย ๆ ที่ใช้ได้ดีที่สุดในการกำจัดกลิ่นเหม็นภายในห้องน้ำให้หายไปอย่างรวดเร็วและหอมนานมาก โดยการนำผลมะกรูดมาหั่นและใส่ถ้วยหรือใส่ถุงแขวนไว้ในห้องน้ำ ด้วยขนาดความกว้างของห้องน้ำนั้นเล็กมากทำให้กลิ่นหอมของมะกรูดมีกลิ่นอายที่แรงพอจะเข้าไปขจัดกลิ่นเหม็น เรียกได้ว่าความฉุนย่อมสยบทุกสิ่งได้นั่นเอง นอกจากความเหม็นจะหายไป กลิ่นหอมฉุนของมะกรูดยังสามารถช่วยให้คนเป็นหวัดจมูกโล่งโปร่งดีด้วยนะ กำจัดกลิ่นเหม็นในห้องน้ำด้วยดอกไม้ การนำดอกไม้หอมมาไว้ในห้องน้ำเป็นหนึ่งในวิธีที่ช่วยให้ห้องน้ำมีกลิ่นหอมได้ ยิ่งเป็นดอกไม้ไทยก็ยิ่งส่งกลิ่นหอมแรงช่วยได้เยอะเลย เช่น ดอกมะลิ ดอกโมก เป็นต้น เวลาทำกิจต่าง ๆ ในห้องน้ำก็รู้สึกเย็นสบายเหมือนอยู่ท่ามกลางธรรมชาติเลยล่ะ แต่วิธีนี้อาจจะมีความลำบากตรงที่ต้องมีการเปลี่ยนดอกไม้และเปลี่ยนน้ำในแจกันบ่อย ๆ เมื่อดอกไม้เริ่มแห้ง ไม่เช่นนั้นจากความหอมก็จะกลายเป็นความเหม็นเข้ามาเพิ่มได้ และหากไม่เปลี่ยนน้ำก็อาจจะมียุงมาวางไข่ได้นะ กำจัดกลิ่นเหม็นในห้องน้ำด้วยกลิ่นปรับอากาศ วิธีการที่ง่ายที่สุดและทันสมัยก็คงจะเป็นการใช้แอร์รีเฟรชเชอร์หรือกลิ่นปรับอากาศมาเปิดในห้องน้ำเพื่อขจัดกลิ่นเหม็นทั้งมวลให้หายไปแล้วล่ะค่ะ เพราะเป็นนวัตกรรมใหม่ยอดฮิตที่คุณสามารถไปห้างสรรพสินค้าหรือซุปเปอร์มาร์เก็ตแล้วเลือกซื้อกลิ่นหอมแบบใดก็ได้ มีทั้งกลิ่นดอกไม้ไทย กลิ่นคูลเย็น ๆ และกลิ่นดอกไม้ยุโรปมากมายให้เลือกตามสไตล์ เมื่อเข้ามาในห้องน้ำ คุณก็แค่เปิดหัวฝาแอร์รีเฟรชเชอร์ออกเพื่อให้กลิ่นของมันออกมาขจัดกลิ่นเหม็นอับในห้องน้ำคุณก็แค่นั้น สามารถใช้ได้นานเกือบเดือนเลยนะคะ ราคาก็ไม่แพงมาก  เพราะห้องน้ำเป็นสถานที่ที่คุณควรให้ความสำคัญในอนามัยเป็นอย่างสูง การนำสิ่งที่หอมมาช่วยขจัดกลิ่นเหม็นควบคู่ไปกับการทำความสะอาดห้องน้ำจึงเป็นสิ่งที่ไม่ควรมองข้าม อย่างน้อยสัปดาห์นึงก็ควรทำความสะอาดห้องน้ำ 1 ครั้งนะคะทุกคน รูปภาพประกอบ : […]

แต่งบ้านด้วยโซฟาทรงแปลกแหวกแนวไม่เหมือนใคร

แต่งบ้านด้วยโซฟาทรงแปลกแหวกแนวไม่เหมือนใคร

สำหรับใครที่อยากแต่งบ้านให้ดูเก๋ แตกต่างจากเดิมๆ การหาโซฟาทรงแปลกๆ ซักอันมาตั้งไว้ตามมุมห้องต่างๆ ก็ช่วยเพิ่มสีสันให้กับห้องไม่ใช่น้อยเลยทีเดียว ปัจจุบันยังมีการดีไซส์รูปทรงโซฟาแตกต่างไปจากเดิมที่เราเคยเห็นกัน ทำให้ห้องดูไม่หน้าเบื่อ ที่สำคัญยังดูสวยทันสมัยมากยิ่งขึ้นอีกด้วย สำหรับโซฟาทรงแปลกๆ ที่ค่อนข้างได้รับความนิยมนำไปแต่งบ้านก็อย่างเช่น  ภาพจาก thai.alibaba.com 1. โซฟาทรงหยดน้ำ ส่วนใหญ่จะออกแบบให้มีความนุ่ม สามารถใช้ประโยชน์ทั้งนั่งและนอน ดูเหมือนไม่เป็นรูปทรงนัก แต่เหมาะกับการนั่งพักผ่อนเป็นอย่างมาก โซฟาทรงนี้สามารถวางไว้ได้หลายห้องในบ้านไม่ว่าจะเป็น ห้องรับแขก ห้องนั่งเล่น และห้องนอน  2. โซฟารูปริมฝีปากแดง ช่วยเพิ่มสีสันให้ห้องดูสดใสมากยิ่งขึ้น แต่นอกจากสีแดงแล้วเรายังสามารถเลือกสีอื่นที่ชอบกันได้เลย แต่สีแดงเป็นสีที่น่าจะดูโดดเด่นสะดุดตามากที่สุด สำหรับโซฟาลักษณะนี้คุณสามารถวางได้ทั้งในห้องนั่งเล่น ห้องนอน หรือถ้าใครมีห้องโฮมเธียร์เตอร์ก็เหมาะเป็นอย่างมาก  ภาพจาก th.aliexpress.com 3. โซฟารูปนิ้วมือ อีกหนึ่งการออกแบบที่ช่วยเพิ่มสีสันให้กับห้องภายในบ้านได้เป็นอย่างดี โซฟาลักษณะนี้อาจจะเหมาะสำหรับหนุ่มๆ สาวๆ ที่ยังอยู่ในช่วงวัยรุ่นหรือช่วงวัยเริ่มทำงาน แต่ผู้ใหญ่อาจจะมองว่าแบบเดิมๆ ดูดีกว่าเยอะ อันนี้ก็ต้องเลือกกันแล้วแต่ความชอบ 4. โซฟารูปสัตว์ต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น รูปฮิบโป้ รูปช้าง รูปเต่า รูปหมี รูปเสือ และ จรเข้ เป็นต้น ต้องบอกว่าเฟอร์นิเจอร์เหล่านี้นอกจากจะดูแปลกแล้ว ยังเสริมสร้างจินตนาการของคุณได้เป็นอย่างดี ซึ่งส่วนมากเราจะไม่ค่อยเห็นใครนำโซฟารูปร่างเหล่านี้มาประดับบ้านกันสักเท่าไร […]

แต่งห้องทำงานใช้ผ้าม่านแบบไหนดี

แต่งห้องทำงานใช้ผ้าม่านแบบไหนดี

ห้องทำงานควรเป็นห้องที่เงียบสงบ มีแสงไม่มากแต่ก็ไม่ควรน้อยจนเกินไป เพื่อช่วยให้คุณมีสมาธิในการทำงาน ส่วนใหญ่นิยมจัดแต่งด้วยเฟอร์นิเจอร์สีโทนเข้ม โดยเฉพาะเฟอร์นิเจอร์ไม้ แต่ปัจจุบันก็มีหลายคนที่ชอบแต่งห้องทำงานให้มีสีสันสดใส เพราะจากผลการวิจัยระบุว่าสีสันมีส่วนในการช่วยให้สมองตื่นตัวและมีความคิดสร้างสรรค์มากขึ้น สำหรับห้องที่มีสีสันสดใสก็คงเหมาะสำหรับผู้ที่ทำงานด้านการออกแบบ หรือดีไซเนอร์ ส่วนคนทำงานด้านเอกสารส่วนใหญ่จะชอบห้องที่มีโทนสีเข้มหรือโทนอ่อนแบบเย็นตา สำหรับผ้าม่านที่เหมาะกับห้องทำงานนั้น โดยรวมแล้วควรมีลักษณะดังนี้ค่ะ 1. ควรเลือกแบบที่เป็นม่านปรับแสงหรือมู่ลี่ เพราะจะปรับระดับแสงได้ตามความต้องการในแต่ละช่วงเวลา สำหรับในส่วนนี้อาจต้องดูด้วยว่าห้องอยู่ในทิศทางใด และมีแสงส่องถึงมากน้อยแค่ไหน หากในระหว่างวันมีแสงสว่างส่องไม่มาก เจ้าของห้องสามารถเลือกแบบผ้าม่านตามความต้องการกันได้เลย  2. สำหรับสีควรเลือกให้กลมกลืนไปกับเฟอร์นิเจอร์ภายในห้อง แต่ควรเลือกเฉดสีของผ้าม่านให้อ่อนลงกว่าสีของเฟอร์นิเจอร์สักเล็กน้อย เพื่อให้มองดูแล้วสบายตา ไม่เคร่งเครียดจนเกินไป หรือถ้าคุณจะเลือกสีตามชอบก็ได้เช่นกันค่ะ แต่ควรใช้หลักการเดียวกัน เช่นถ้าชอบสีน้ำตาลเข้มก็ควรเลือกเป็นน้ำตาลอ่อน หรือถ้าชอบสีน้ำเงินก็ควรใช้เป็นสีฟ้าแทนแบบนี้เป็นต้นค่ะ สีของผ้าม่านยังมีส่วนในเรื่องของอารมณ์และยังมีผลต่อสมาธิในการทำงานของเราอีกด้วย ดังนั้นควรใส่ใจในการเลือกสีกันสักนิด เพื่อให้เราทำงานได้อย่างราบรื่น 3. สำหรับเนื้อผ้าให้พิจารณาจากตำแหน่งของห้อง ถ้าห้องอยู่ทางด้านทิศตะวันออกแนะนำให้เลือกแบบที่เป็นผ้าหนาหรืออาจติดเป็นผ้าม่านแบบสองชั้นก็เป็นวิธีที่ดี เพราะในช่วงที่แสงแดดไม่แรงมากเรายังปิดเพียงแค่ชั้นเดียว เพื่อให้แสงรอดผ่านมาได้บ้างเป็นการช่วยประหยัดพลังงานไปในตัว เพราะใช้แสงสว่างจากธรรมชาติได้โดยไม่ต้องเปิดไฟ แต่ถ้าห้องทำงานของอยู่ทางด้านทิศตะวันตกหรือทิศที่ไม่ค่อยถูกแสงมากก็เลือกได้ตามความชอบกันได้เลยค่ะ  ใครกำลังเลือกผ้าม่านกันอยู่ลองเอาไปพิจารณาเลือกให้เหมาะสมกับห้องทำงานของคุณกันนะคะ โดยเน้นให้เหมาะและสะดวกในการใช้งาน รูปแบบเรียบง่ายสีสันไม่สดหรือสว่างจนเกินไป โดยเฉพาะสีในโทนร้อนอย่างเช่น สีส้ม สีแดง รวมไปถึงประเภทสีสะท้อนแสง เพราะสีเหล่านี้จะส่งผลต่อสมาธิในการทำงานอย่างแน่นอน ดูไปแล้วสีของผ้าม่านก็มีความสำคัญสำหรับห้องทำงานไม่ใช่น้อยเลยทีเดียว เมื่อเป็นแบบนี้เราลองมาเลือกแบบผ้าม่านสวยๆ เพิ่มเติมกันดีกว่า ใครสนใจดูผ่านคลิปนี้กันได้เลยนะคะ #ผ้าม่าน #แต่งห้องทำงาน #ของแต่งบ้าน

ไอเดียแต่งบ้านจากวัสดุเหลือใช้

ไอเดียแต่งบ้านจากวัสดุเหลือใช้

ทราบกันไหมค่ะว่าเราสามารถนำวัสดุเหลือใช้ในชีวิตประจำวันมาประดิษฐ์เป็นสิ่งของแต่งบ้านกันได้ การนำวัสดุที่ไม่ใช้แล้วกับมาใช้ใหม่ ยังเป็นการช่วยลดปัญหาการเกิดขยะที่ล้นเมืองอย่างในทุกวันนี้ได้เป็นอย่างดี และที่สำคัญไปกว่านั้นยังช่วยลดปัญหาโลกร้อนกันได้อีกด้วยนะคะ ในปัจจุบันโลกของเราก็ยังมีแนวโน้มที่จะมีอากาศร้อนขึ้นในทุกปี เนื่องจากมลภาวะจากสิ่งต่างๆ ที่เกิดขึ้นภายในโลก โดยเฉพาะขยะ เมื่อเป็นแบบนี้แล้ว หากคุณมีวัสดุเหลือใช้ลองหยิบนำมาดัดแปลงเป็นของแต่งบ้านสวยๆ กันดีกว่าค่ะ แต่ถ้าท่านใดยังนึกไม่ออกวันนี้เรามีมาฝากกันด้วยค่ะ จะมีอะไรบ้างนั้นลองตามไปดูกันได้เลย ผ้าม่านจากขวดพลาสติก ขวดพลาสติกประเภทขวดน้ำเปล่า หรือขวดน้ำอัดลม เป็นขวดพลาสติกที่ย่อยสลายยากมากๆ ดังนั้นเราเก็บมาทำอย่างอื่นน่าจะดีกว่าอย่างเช่นการทำเป็นผ้าม่าน วิธีก็ไม่ยาก ให้ตัดขวดพลาสติกเอาเฉพาะบริเวณก้นขวด จากนั้นให้นำทรายละเอียดไปอุ่นบนเตาไฟ เมื่อได้ที่ให้นำลงมา แล้วนำก้นขวดมาคว่ำลงในทราย หรือใครจะใช้กระดาษทรายขัดก็ได้เช่นกันนะคะ เพื่อลดความคมของขวดนั่นเองค่ะ เมื่อเรียบร้อยแล้วเราจะทำการเจาะรูด้านบนและด้านล่างของก้นขวด เพื่อทำการร้อยเชือกผูกติดกันให้มีความกว้างและความยาวตามต้องการ เมื่อได้ขนาดอย่างที่ต้องการแล้วสามารถนำไปติดกันได้เลย แต่ถ้าใครจะทาสีเพิ่มเติมก็ได้เช่นกันค่ะ  ที่เก็บของจากกล่องกระดาษ  หากที่บ้านมีกล่องกระดาษเหลือใช้จะทิ้งก็เสียดาย หากนำไปขายก็คงได้ไม่เท่าไหร่ เมื่อเป็นแบบนี้เรานำกล่องมาตัดฝาด้านบนออกทั้งสี่ด้าน จากนั้นห่อด้วยผ้าสีสวยๆ หรือกระดาษห่อของขวัญก็ได้เช่นกันค่ะ รวมทั้งบริเวณฝาด้านบนที่เราตัดออก นำมาประกบกันให้เป็นสีเหลี่ยมตามขนาดกล่องแล้วทำการห่อ ไว้สำหรับเป็นฝาปิด กั้นฝุ่นกันแมลงหรือบังสายตาได้เป็นอย่างดี กล่องที่ห่ออย่างสวยงามแล้ว สามารถนำไปตั้งบริเวณต่างๆ ภายในบ้านได้ตามต้องการ ช่วยให้บ้านเป็นระเบียบมากขึ้นอีกด้วยค่ะ  ม้านั่งยางรถยนต์ นำยางรถยนต์เก่ามาล้างทำความสะอาด จากนั้นทำการเจาะรูบริเวณด้านบนให้ห่างกันประมาณ 5 นิ้ว จากนั้นนำเชือกมาร้อยเป็นลักษณะตารางไขว้กันไปมา เลือกเชือกที่มีความเหนียวและทนกันด้วยนะคะ เมื่อร้อยครบทุกช่องก็เป็นอันเสร็จสามารถนำไปนั่งได้เลย หรือจะหาเบาะมาวางลองด้านบนก็ช่วยให้นั่งสบายมากยิ่งขึ้น นอกจากนี้ยางรถยนต์ยังสามารถนำไปทำเป็นกระถางต้นไม้ หรือบ่อเลี้ยงปลา ได้อีกด้วย  […]

วิธีเลือกผ้าม่านสำหรับตกแต่งห้องหนังสือ

วิธีเลือกผ้าม่านสำหรับตกแต่งห้องหนังสือ

ชื่อก็บอกแล้วนะคะว่าห้องหนังสือจะเป็นห้องที่เราเก็บหนังสือต่างๆ ไว้ เพื่อให้เป็นระเบียบเรียบร้อย ห้องหนังสือบางบ้านอาจจะเป็นเหมือนห้องสมุดย่อมๆ กันได้เลย และหนังสือส่วนใหญ่ก็จะเป็นหนังสือที่ได้รับการคัดสรรแล้วว่าควรถนอมรักษาเก็บไว้อ่านกันนานๆ ส่วนใหญ่ในห้องนี้จะตกแต่งแบบไม่ค่อยมีอะไรมาก เช่น อาจมีชั้นหรือตู้สำหรับจัดวางหนังสือ โต๊ะเก้าอี้หรือโซฟา ไว้สำหรับหนังอ่านหนังสือภายในห้อง แต่ที่ขาดไม่ได้ก็คงต้องมีหน้าต่างที่สามารถให้แสงสว่างส่องเข้ามาได้ แต่แสงที่แรงมากๆ ก็มีผลต่อหนังสือที่เราเก็บได้เช่นกันค่ะ ดังนั้นผ้าม่านจึงเป็นสิ่งจำเป็นสำหรับห้องนี้ โดยมีหลักที่คุณควรพิจารณาก่อนเลือกผ้าม่านก็คือ 1. ถ้าต้องการกันแสงควรเลือกใช้ผ้าม่านที่ไว้สำหรับกันแสงกันโดยเฉพาะ เพราะจะมีเนื้อหนาหรือเป็นผ้าหลายชั้น ซึ่งจะช่วยกันแสงเข้ามาในห้องได้เป็นอย่างดี  2. เลือกติดตั้งผ้าม่านแบบเป็นสองชั้น โดยชั้นนอกเป็นผ้าเนื้อหนา ส่วนด้านในเป็นผ้าเนื้อบาง ไว้สำหรับเวลาที่เราต้องการแสงมากและเวลาที่ต้องป้องกันแสง เพราะแต่ละช่วงในระหว่างวันแสงแดดจะส่องมาไม่เท่ากัน การใช้ผ้าม่านแบบสองชั้นจึงช่วยให้คุณสามารถปรับแสงได้ตามความต้องการ  3. ในเรื่องสีสามารถเลือกได้ตามความชอบกันเลยนะคะ แต่จะให้สวยควรเลือกให้กลมกลืนไปกลับเฟอร์นิเจอร์หรือสีที่ทาภายในห้องนั้น และถ้าต้องการให้ช่วยในเรื่องของการมีสมาธิในการอ่านหนังสือด้วยแล้วละก็ แนะนำเป็นผ้าม่านสีพื้น แบบเรียบๆ จะช่วยให้เราไม่วอกแวกและมีสมาธิดีขึ้นได้ แต่ถ้าอยากเลือกแบบเป็นลวดลายแนะนำให้เป็นลวดลายเล็กๆ จะดีกว่าแบบลายใหญ่หรือสลับซับซ้อน  4. รูปแบบผ้าม่าน ให้เลือกจากความสะดวกในการใช้งาน ไม่ว่าจะเป็นม่านม้วน ม่านพับ มู่ลี่ ม่านจีบ หรือม่านตาไก่ เป็นต้น  5. ถ้าหากให้ภายในห้องดูกว้าง ควรเลือกผ้าม่านที่เป็นสีในโทนอ่อน อย่างเช่น สีขาว สีฟ้า สีครีม และสีชมพู เป็นต้น แต่ถ้าห้องกว้างอยู่แล้วอยากให้ดูแคบลงก็เลือกแบบตรงกันข้ามกันนะคะ […]

6 ไอเดีย แต่งห้องนอนสไตล์ลอฟท์ ที่คุณก็ทำได้ง่าย ๆ

6 ไอเดีย แต่งห้องนอนสไตล์ลอฟท์ ที่คุณก็ทำได้ง่าย ๆ

การแต่งบ้านสไตล์ลอฟท์ นั้นต้องบอกเลยว่าเป็นการตกแต่งที่คนส่วนใหญ่นิยมกันอย่างมาก เพราะจากจะดูเท่ห์ และมีรสนิยมแล้ว การแต่งบ้านสไตล์นี้ยังสามารถเอาไปผสมกับการตกแต่งบ้านสไตล์อื่นได้ไม่ยากอีกด้วย ส่วนใหญ่เรามักจะนิยมนำมาตกแต่งห้องนอนค่ะ และหากใครที่กำลังอยาก แต่งห้องนอนสไตล์ลอฟท์ อยู่ละก็ วันนี้เราก็มีไอเดียดี ๆ มาฝากค่ะ ตามมาดูกันเลยว่าจะสามารถนำไปปรับใช้อย่างไรได้บ้าง แต่งห้องนอนสไตล์ลอฟท์ ให้สวย เท่ห์ ดูดี มีเทคนิคที่ไม่ยุ่งยาก 1.สำหรับคนที่ชอบทะเล คุณสามารถ แต่งห้องนอนสไตล์ลอฟท์ โดยผสมกลิ่นอายแบบเวลาที่เราไปพักผ่อนชายทะเลได้นะคะ ด้วยการใช้ โทนสีขาว หรือ สีครีม บวกกับเฟอร์นิเจอร์หวายก็ได้ค่ะ แค่นี้ก็ได้บรรยากาศที่ชวนอบอุ่น น่าพักผ่อนแล้วละค่ะ 2.ถ้าคุณเป็นสาวหวานแต่อยากแต่งห้องนอนให้เป็นสไตล์ลอฟท์ ก็สามารถทำได้นะคะ โดยการแต่งห้องให้เป็นสไตล์ลอฟท์แบบด้านเดียวค่ะ ด้วยการเว้นผนังด้านใดด้านหนึ่งเพื่อแต่งให้เป็นลอฟท์ นอกนั้นก็สามารถตกแต่งได้ตามปกติตามที่คุณชอบค่ะ  3.ตกแต่งห้องให้เป็นสไตล์โมเดิร์นลอฟท์ ก็เป็นอีกแบบหนึ่งที่คนส่วนใหญ่นิยมกันอย่างมาก เพราะห้องสไตล์นี้ไม่ต้องตกแต่งอะไรมากมายเพียงแค่มีพื้นปูนเปลือย แล้วใช้เฟอร์นิเจอร์กับโทนสีขาว ดำ น้ำตาล ให้ไปในทางเดียวกัน แค่นี้ก็ดูน่าพักผ่อนขึ้นมากแล้วค่ะ 4.หากคุณเป็นคนที่ชอบห้องสไตล์ลอฟท์ และก็ไม่ได้อยากตกแต่งอะไรเพิ่มเติม ก็สามารถจัดห้องให้ดูดีได้นะคะ ด้วยการใช้เฟอร์นิเจอร์และโทนสีขาว เทา เป็นตัวควบคุม ง่าย ๆ แบบนี้ก็ดูดีสุด ๆ แล้วค่ะ 5.สำหรับใครที่มีห้องเป็นปูนเก่า ก็สามารถตกแต่งห้องให้เป็นสไตล์ลอฟท์ได้นะคะ […]